กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยรายงานว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึง 3 สิงหาคม ลดลง 6.56% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
มีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 19.57 ล้านคนในช่วงเวลาดังกล่าว โดยจีนเป็นตลาดนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดด้วยจำนวน 2.73 ล้านคน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงการคลังได้ปรับลดคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ลงเหลือ 34.5 ล้านคน จาก 36.5 ล้านคน ก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา (Covid) ในปี 2019 ประเทศไทยเคยมีนักท่องเที่ยวเกือบ 40 ล้านคน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานเมื่อสัปดาห์นี้ว่า เป้าหมาย 1 ล้านคนสำหรับตลาดตะวันออกกลางและแอฟริกายังคงเป็นเรื่องท้าทายเนื่องจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ประเทศไทยยังมีโอกาสจากการเปิดเที่ยวบินใหม่ในช่วงฤดูหนาวนี้
ความท้าทายและโอกาสในการท่องเที่ยวไทย
ประเทศไทยกำลังเผชิญกับช่วงเวลาสำคัญในการเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากพลวัตโลกเปลี่ยนแปลงไปและความตึงเครียดในภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้น ประเทศไทยจึงต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดการเดินทางของอาเซียน
การใช้ประโยชน์จากแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ หัวหิน พัทยา และสมุย สามารถเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงนี้ อย่างไรก็ตาม โอกาสเหล่านี้มาพร้อมกับความท้าทาย ตั้งแต่ข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงความเสี่ยงด้านชื่อเสียงที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวปาร์ตี้ที่มากเกินไป
จุดแข็งและจุดอ่อนของเมืองท่องเที่ยวหลัก
- กรุงเทพฯ: จุดแข็งคือการเชื่อมต่อสนามบินทั่วโลก แหล่งช้อปปิ้ง อาหาร และ MICE จุดอ่อนคือการจราจรติดขัดและมลพิษ
- พัทยา: จุดแข็งคือความใกล้ชิดกับกรุงเทพฯ สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว และศักยภาพ MICE จุดอ่อนคือภาพลักษณ์เชิงลบและปัญหาอาชญากรรม
- หัวหิน: จุดแข็งคือการได้รับการรับรองจากราชวงศ์ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและกอล์ฟ จุดอ่อนคือการขาดเที่ยวบินระหว่างประเทศ
- เชียงใหม่: จุดแข็งคือมรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย สภาพอากาศที่เย็นสบาย และความน่าสนใจของ Digital Nomad จุดอ่อนคือมลพิษทางอากาศในช่วงฤดูเผาไหม้และข้อจำกัดด้านความจุของเที่ยวบิน
- สมุย: จุดแข็งคือวิลล่าหรู การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และการท่องเที่ยวแบบ Island-hopping จุดอ่อนคือข้อจำกัดด้านสล็อตของสายการบิน สภาพอากาศ และโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่ยังไม่พัฒนา