สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุข
สถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชายังคงส่งผลกระทบต่อระบบบริการสาธารณสุขในหลายจังหวัดของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ตราด และสระแก้ว สถานการณ์ล่าสุดส่งผลให้สถานบริการทางการแพทย์ในพื้นที่ได้รับผลกระทบถึง 17 แห่ง
โรงพยาบาลหลายแห่งต้องปิดทำการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนที่เข้ารับบริการ โรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบโดยตรงรวมถึงโรงพยาบาลน้ำขุ่นและโรงพยาบาลน้ำยืนในจังหวัดอุบลราชธานี นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลกันทรลักษณ์และโรงพยาบาลภูสิงห์ในจังหวัดศรีสะเกษ โรงพยาบาลพนมดงรักและโรงพยาบาลกาบเชิงในจังหวัดสุรินทร์ และโรงพยาบาลบ้านกรวดในจังหวัดบุรีรัมย์
การช่วยเหลือประชาชนและผู้ป่วย
กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งระดมทีมแพทย์และหน่วยเคลื่อนที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่ต้องการการรักษาอย่างต่อเนื่อง เช่น ผู้ป่วยไตที่ต้องเข้ารับการฟอกไตเป็นประจำ กระทรวงฯ ได้จัดส่งรถฟอกไตเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินสำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยจากสถานการณ์ความไม่สงบ
ผู้อพยพในอุบลราชธานี
ประชาชนในพื้นที่สีแดงของอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ได้อพยพไปยังศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยการสู้รบชั่วคราว บรรยากาศในศูนย์เป็นไปด้วยความเงียบสงบและความกังวล ประชาชนต่างติดต่อสื่อสารกับครอบครัวและญาติมิตรเพื่อติดตามสถานการณ์
การดูแลสุขภาพผู้ป่วยบัตรทอง
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ชี้แจงแนวทางการให้บริการสุขภาพสำหรับผู้ป่วยบัตรทองในพื้นที่ชายแดน โดยยืนยันว่าจะดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่เพื่อให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่จำเป็น