เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในวงการสงฆ์ เมื่อ พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีข่าวพัวพันกับการโอนเงินจำนวน 11 ล้านบาท ให้กับบุคคลที่ถูกเรียกว่า “สีกากอล์ฟ”
หนังสือลาออกถูกส่งถึง พระราชวชิรสารสุธี เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ธรรมยุต) เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชนและประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่วัดชูจิตธรรมาราม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งตั้งอยู่ภายในมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย พบว่ามีเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ บก.ปปป. เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบวัดจำนวน 4 แห่ง ที่มีพระลูกวัด หรือพระชั้นผู้ใหญ่ของวัดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับ “สีกากอล์ฟ” โดยหนึ่งในนั้นคือ วัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง
เหตุการณ์นี้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการสงฆ์ และเป็นที่จับตามองของสังคมถึงความโปร่งใสในการบริหารจัดการเงินวัด และความเหมาะสมของพฤติกรรมของพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว
การลาออกของเจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบเบื้องต้น และเป็นการเปิดทางให้กระบวนการตรวจสอบสามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ โดยไม่มีข้อกังขาหรืออุปสรรคใดๆ
ผลกระทบต่อศรัทธาประชาชน
เรื่องราวดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระสงฆ์และวัดวาอารามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายคนแสดงความผิดหวังและเรียกร้องให้มีการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย
การตรวจสอบและบทลงโทษ
การตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อสร้างความกระจ่างและความเชื่อมั่นให้กับประชาชน หากพบว่ามีการกระทำผิดจริง ผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต
- การตรวจสอบเส้นทางการเงิน
- การสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง
- การพิจารณาความผิดทางวินัยสงฆ์
สังคมไทยกำลังจับตามองอย่างใกล้ชิดว่ากระบวนการตรวจสอบจะดำเนินการไปในทิศทางใด และผลลัพธ์จะส่งผลต่อวงการสงฆ์อย่างไรบ้าง