การชุมนุมประท้วงที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย" กำลังเป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิด การประท้วงครั้งนี้ถือเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่พรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลในปี 2566 โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณสองหมื่นคนในช่วงพีค
ข้อเรียกร้องหลักและการตอบสนอง
กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่ง และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว โดยอ้างเหตุผลเรื่องการ "ปกป้องอธิปไตย" ข้อเรียกร้องเหล่านี้สะท้อนถึงความไม่พอใจของประชาชนบางส่วนต่อการบริหารงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน
ประเด็น 'รัฐประหาร' แทรกซ้อน
นักเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างสมบัติ บุญงามอนงค์ ชี้ให้เห็นว่า มีกระแส "หนุนรัฐประหาร" แฝงอยู่ในการชุมนุม ซึ่งอาจทำให้เป้าหมายของการชุมนุมเบี่ยงเบนไป สมบัติกล่าวว่า การที่ผู้เข้าร่วมชุมนุมบางส่วนเคยสนับสนุนการรัฐประหารในอดีต ทำให้เกิดความเคลือบแคลงในหมู่ผู้สังเกตการณ์ และอาจทำให้การชุมนุม "สะดุด"
ความทรงจำ 'เขาพระวิหาร'
นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า การชุมนุมครั้งนี้สะท้อนถึงความรู้สึกสูญเสียและความห่วงใยต่ออธิปไตยของชาติที่ฝังรากลึกในสังคมไทย โดยยกตัวอย่างกรณีเขาพระวิหารในอดีตที่ยังคงเป็นบาดแผลในใจของคนไทยหลายรุ่น
อนาคตของการประท้วง
การชุมนุม "รวมพลังแผ่นดินฯ" จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่หรือไม่ ยังคงเป็นคำถามที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม การชุมนุมครั้งนี้ได้จุดประกายความสนใจของสาธารณชน และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของแรงกระเพื่อมทางการเมืองครั้งใหม่