บทสรุปแห่งมหากาพย์: คดีบุกยึด NBT สิ้นสุด 17 ปี
คดีการบุกยึดสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) โดยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในปี 2551 เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด หลังจากการต่อสู้ทางกฎหมายยาวนานถึง 17 ปี ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาชี้ขาดในวันที่ 19 กันยายน 2568 ตัดสินจำเลยที่เหลืออีก 4 ราย ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรักษ์, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล
คดีนี้เริ่มต้นขึ้นจากการที่กลุ่มพันธมิตรฯ บุกเข้าไปในสถานี NBT ในช่วงที่มีการชุมนุมประท้วงทางการเมือง การกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการละเมิดกฎหมายและนำไปสู่การดำเนินคดีอาญา
คำพิพากษาศาลชั้นต้น
ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาว่าจำเลยทั้ง 5 กระทำความผิดจริง โดยเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ศาลจึงลงโทษในบทหนักสุดคือฐานร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน โดยจำคุกนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เป็นเวลา 2 ปี และจำคุก น.ส.อัญชะลี, นายภูวดล, นายยุทธิยง และนายชิติพัทธ์ คนละ 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา
ผลการตัดสินของศาลฎีกาในครั้งนี้ ถือเป็นบทสรุปของการต่อสู้ทางกฎหมายที่ยาวนาน และเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของการเมืองไทยที่ต้องจดจำ
ผลกระทบและปฏิกิริยา
การตัดสินคดีนี้คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการเมืองไทยในหลายด้าน ทั้งในแง่ของการตีความกฎหมายเกี่ยวกับการชุมนุมประท้วง และในแง่ของความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรม นอกจากนี้ ยังต้องติดตามปฏิกิริยาจากฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งกลุ่มพันธมิตรฯ นักวิชาการ และประชาชนทั่วไป