ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนหลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ในวันที่ 17 กันยายน 2568 ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ที่ระบุว่าการปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการดำเนินการอย่าง “ระมัดระวัง” และไม่ใช่สัญญาณของการลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนยังคงไม่มั่นใจและจับตาท่าทีของเฟดในอนาคตอย่างใกล้ชิด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสม
ดัชนี Dow Jones ปิดบวก 0.57% ได้รับแรงหนุนจากการลดดอกเบี้ย แต่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq Composite ปิดลบเล็กน้อย สะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต
- Dow Jones Industrial Average: 46,018.32 จุด (+0.57%)
- S&P 500: 6,600.35 จุด (-0.10%)
- Nasdaq Composite: 22,261.326 จุด (-0.33%)
ตลาดหุ้นยุโรปผันผวน
ตลาดหุ้นยุโรปก็เผชิญกับความผันผวนเช่นกัน โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบเล็กน้อย หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและอสังหาริมทรัพย์ช่วยพยุงตลาดไว้ได้บ้าง แต่หุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่กดดันตลาด
นักวิเคราะห์มองว่า การลดดอกเบี้ยของเฟดอาจเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ในระยะยาวต้องติดตามผลกระทบต่อเงินเฟ้อและเสถียรภาพทางการเงินอย่างใกล้ชิด นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของบริษัทและกระจายความเสี่ยงในการลงทุนเพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาด
จับตาท่าทีเฟด
นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตาท่าทีของเฟดในการประชุมครั้งต่อไป เพื่อประเมินว่าเฟดจะดำเนินนโยบายการเงินอย่างไรต่อไป ท่าทีของเฟดจะมีผลต่อทิศทางของตลาดหุ้นและอัตราแลกเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ