ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ได้มีคำพิพากษาจำคุก นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตผู้บริหาร บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) เป็นเวลา 8 ปี ในคดีการใช้โฉนดที่ดินปลอมเพื่อดำเนินการในพื้นที่ป่าสงวนในจังหวัดสระบุรีและลพบุรี ซึ่งเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติของชาติ
นอกจากนายประชัยแล้ว ศาลยังได้พิพากษาจำคุกพนักงานของบริษัท ทีพีไอ โพลีน อีกหนึ่งคนเป็นเวลา 8 ปี และปรับบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) เป็นเงินจำนวน 160,000 บาท
คดีนี้สืบเนื่องมาจากการที่กลุ่มจำเลยได้ร่วมกันใช้เอกสารสิทธิที่ดินปลอมจำนวน 11 แปลง ในปี 2557 โดยอ้างสิทธิครอบครองพื้นที่ป่าและภูเขาที่ไม่สามารถออกโฉนดได้ โฉนดที่ดินดังกล่าวถูกปลอมแปลงมาจากโฉนดที่ดินที่ต้องส่งทำลาย ทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐและทรัพยากรธรรมชาติ
ภายหลังคำพิพากษา ทนายความของนายประชัยได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ อย่างไรก็ตาม ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 1 เห็นสมควรส่งคำร้องดังกล่าวให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 เป็นผู้พิจารณาคำสั่งประกันตัว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้นำตัวนายประชัยไปควบคุมไว้ที่เรือนจำกลางสระบุรี เพื่อรอคำสั่งจากศาลอุทธรณ์ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-3 วัน
คดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชนเนื่องจากเกี่ยวข้องกับการทุจริตและผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ ศาลได้พิจารณาหลักฐานอย่างรอบคอบและตัดสินลงโทษผู้กระทำผิดเพื่อเป็นบรรทัดฐานในการรักษากฎหมายและป้องกันการทุจริตในอนาคต
ผลกระทบต่อ TPI Polene
คำพิพากษาครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจะจับตาดูการดำเนินการของบริษัทต่อไปอย่างใกล้ชิด
อนาคตของคดี
นายประชัยและทีมทนายความมีสิทธิ์ที่จะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อศาลสูงขึ้นต่อไป คดีนี้จึงยังไม่สิ้นสุดและต้องติดตามความคืบหน้าต่อไป